ค่าแถบสีของตัวต้านทาน |
|
อ้างอิง
อ่าน 4791 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
warothai01
|
แสดงค่าแถบสีของตัวต้านทานคงที่
ปัจจุบัน มีแถบสี 5-6 แถบ
หน่วยของความต้านทาน (Unit of Resistance)
ค่าความต้านทานหรือที่เรียกว่า “รีซีสแตนท์” (Resistance) ตัวความต้านทานนี้จะมีหน่วยเบื้องต้นในการวัดเป็น โอห์ม
คือ เกิดจากค่าความต้านทานที่ยอมให้กรแสไหลผ่านได้ 1 แอมป์ มีแรงเคลื่อนไฟฟ้า 1 โวลต์ ตกคร่อมตัวความต้านทานนี้ แต่ความต้านที่ใช้ในวงจรมีหลายขนาดตั่งแต่ค่าต่ำสุดจนถึงค่าสูงสุด จึงจำเป็นต้องมีหน่วยของความต้านทาน เพื่อช่วยในการอ่านและความสะดวกในการใช้งาน
1,000 โอห์ม เท่ากับ 1 กิโลโอห์ม ( 1 เค )
10,000 โอห์ม เท่ากับ 10 กิโลโอห์ม
100,000 โอห์ม เท่ากับ 100 กิโลโอห์ม
1,000,000 โอห์ม เท่ากับ 1,000 กิโลโอห์ม หรือ 1เมกะโอห์ม ( 1 เมก )
วิธีการอ่านค่าความต้านทาน
การอ่านค่าความต้านทานของรีซีสเตอร์มีอยู่ 2 วิธี คือ
วิธีที่ 1 การอ่านค่าความต้านทาน ค่าเปอร์เซ็นต์ผิดพลาด และค่าอัตราทนกำลังไฟฟ้า จากค่าที่พิมพ์ติดบนตัวรีซีสเตอร์ได้เลย ส่วนมากจะเป็นรีซีสเตอร์แบบไวร์วาวด์ ซึ่งจะเป็นตัวความต้านทานที่มีขนาดใหญ่
วิธีที่ 2 การอ่านค่าที่เป็นโค้ดสีของความต้านทาน (Resistor colour Code) จะเป็นตัวความต้านทานที่มีอัตราทนกำลังไฟฟ้าต่ำ ๆ ส่วนมากจะเป็นตัวความต้านทานพวก คาร์บอน, ฟิล์มคาร์บอน, ฟิล์มโลหะ ซึ่งพอจะจำแนกการอ่านโค้ดสีได้จากลักษณะของตัวความต้านทานได้ดังนี้
1. ระบบ “ หัวถึงปลาย” (End to center band system) คือตัวต้านทานที่มีลักษณะการต่อขาใช้งานออกมาตามความยาวกับตัวต้านทาน หรือเรียกว่า แบบสายต่อทางแกน (Axial)
2. ระบบ “ ตัวหัวจุด” (Body-end-dot System) คือ ตัวความต้านทานที่มีลักษณะการต่อขาในแนวรัศมี หรือเรียกว่า แบบสายต่อทางข้าง (Radial)
อาการเสีย ตัวความต้านทานเราสามารถตรวจพบอาการเสียอยู่เสมอ คือ ยืดค่า, ขาด, ความต้านทานไม่คงที่ และตัวความต้านทานไหม้ เนื่องมากจากกระแสไหลผ่านตัวมันมากเกินไป
การตรวจซ่อม เมื่อเปลี่ยนตัวความต้านทานควรจะใช้ค่าความต้านทานและอัตราทนกำลังไฟฟ้าเท่าเดิม อย่าใช้ค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าค่าเดิม เพราะจะทำให้วงจรนั้น ๆ ทำงานผิดพลาด ส่งผลให้อุปกรณ์ตัวอื่น ๆ ในวงจรเสียหายได้
|
|
warothai01 j.a.b.23120@gmail.com [101.109.53.xxx] เมื่อ 14/01/2017 13:57
|